วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 13 ตั้งเเต่วันที่ 24-28 มกราคม 2554

สัปดาห์ที่ 13 ของการฝึกงาน

ตั้งแต่วันที่ 24-28 มกราคม 2554


1.ตรวจเช็คสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์
2.ส่งเอกสาร
3.เปรียบเทียบสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์
4.เปิดปิดห้อง MOC-Operation Room ศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี
และอุปกรณ์ต่าง ๆทั้งหมดคอมพิวเตอร์,ไฟฟ้า,แอร์,ระบบควบคุม,จอทีวีวงจรปิด,กระดาษ E-Broad,Projector(ทุกวัน เช้า-เย็น)
5.ทดสอบระบบ VDO Conference
6.ควบคุมระบบ VDO Conference ระหว่างการประชุม
7.ลงวินโดว์ Computer NoteBook และซอฟต์แวร์แต่างๆ
8.ศึกษาเรียนรู้การ Add User
9.รับโทรศัพท์จากการติดต่อขอใช้ห้องประชุมจากหน่วยงานและกองอื่นๆ

ปัญหาของการฝึกงาน
- เนื่องจากย้ายแผนกวันแรกอาจจะยังจำระบบการปิดเปิดห้อง ไฟฟ้า,แอร์,ระบบควบคุม,จอทีวีวงจรปิด,กระดาษ E-Broad,Projector ไม่ได้

วิธีการแก้ไขปัญหา
- รู้จักสอบถามพี่ที่ดูแลห้องนี้อยู่


สิ่งที่ได้รับต่อการทำงาน
- รู้จักการลงวินโดว
- สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
- สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับบุคลากร
- รู้จักการทดสอบ ควบคุม และดำเนินการ ของระบบ VDO Conference

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 12 ตั้งเเต่วันที่ 17-21 มกราคม 2554

สัปดาห์ที่ 12 ของการฝึกงาน

ตั้งแต่วันที่ 17-21 มกราคม 2554


งานที่ได้รับมอบหมาย

1. ตรวจสอบและรับแจ้งปัญหาการใช้ Internet/Intranet สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ผ่านเว็บไซต์ จำนวน 74 จังหวัด
2. รับโทรศัพท์ แจ้งปัญหาการใช้ PC/PR ปัญหาการลงโปรแกรมต่างๆ ปัญหาการใช้ Internet จำนวนทั้งหมด 20 เครื่อง จากกองต่างๆ ภายในกระทรวง
3. ไปตรวจสอบพร้อมกับแก้ไขเครื่อง PC/PR ตามที่บุคลากรแจ้งเข้ามากับช่างคอม จำนวน 5เครื่อง ในกรมต่างๆ ภายในกระทรวงพาณิชย์
4. เขียนรายการการจองห้องต่างๆตามที่บุคลากร แจ้งเข้ามา
5. จั๊มหัวLan
6. คีย์ข้อมูลต่างๆ
7. พิมพ์บันทึกข้อความ 1 ฉบับ
8. สร้างUser ของบุคลากร

ปัญหา
- บางที Add User ของบุคลากรไม่ได้

วิธีแก้ไขปัญหา
- ลองตรวจสอบทางเว็บไซต์อีกครั้ง

ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทำให้เป็นคนรับผิดชอบต่อหน้าที่การทำงาน

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 11 ตั้งเเต่วันที่ 10-14 มกราคม 2554

สัปดาห์ที่ 11 ของการฝึกงาน

ตั้งแต่วันที่ 10-14 มกราคม 2554

งานที่ได้รับมอบหมายก็จะเป็นเหมือนงานประจำทุกๆวันอยู่แล้ว คือ

1. รับโทรศัพท์การแจ้งปัญหาการใช้ Internet/Intranet สำนักงานพาณิชย์จังหวัด จำนวน 74 จังหวัด
2. รับโทรศัพท์การแจ้งปัญหาการใช้ Internet,Pc/Pr และอื่นๆ เกี่ยวกับปัญหาการใช้ Computer ภายในกระทรวง จำนวน 50 เครื่อง พร้อมกับเขียนรายละเอียด เพื่อส่งไปให้ช่าง เพื่อให้ช่างดำเนินการต่อไป
3. Join Domain จำนวน 9 เครื่อง ภายในกระทรวงพาณิชย์
4. คีย์ข้อมูลต่างๆ จำนวนประมาณ 30 ชุด
5. การลงรับเอกสารเพื่อนส่งต่อไปยังหัวหน้ากลุ่ม พค.
6. Add Printer จำนวน 7 เครื่อง ภายในกองต่างๆ ภานในกระทรวงภาณิชย์
7. ไปดูเครื่องๆจากกรมต่างๆที่บุครากรแจ้งเข้ามากับพี่ที่เป็นช่าง ว่ามีปัญหาใดและควรดำเนินการแก้ไขอย่างไร
8. พิมพ์พร้อมปริ๊นแบบรับแจ้งเครื่องขัดข้อง จำนวน 20 ชุด
9. Set IP เครื่องให้บุครากรที่แจ้งเข้ามา จำนวน 1 เครื่อง

ปัญหาจากการทำงาน
- บางทีเครื่อง Pc ที่บุครากรใช้มีปัญหา เราอาจแก้ไขเองไม่ได้

วิธีการแก้ไขปัญหา
- ให้พี่ที่เป็นช่างบอก แล้วเราลองทำตามไปด้วย


สิ่งที่ได้รับจากการฝึกงาน
- ได้เรียนรู้กับงานใหม่ๆ
- รู้จักการเซตIP เครื่อง
- รู้จักการ Join Domain

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 10 ตั้งเเต่วันที่ 4-7 มกราคม 2554

สัปดาห์ที่ 10 ของการฝึกงาน

ประจำวันที่ 4-7 มกราคม 2554

งานที่ได้รับมอบหมาย


1. รับโทรศัพท์การแจ้งปัญหาการใช้ PC/PR และปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การใช้งานขัดข้อง ภายในกระทรวง จำนวน 45 เครื่อง พร้อมทั้งลงรายละเอียด เพื่อให้ช่างดำเนินการต่อไป
2. ตรวจสอบการใช้ Internet/Intranet สำนักงานพาณิชย์จังหวัด จำนวน 74 จังหวัด
3. คีย์ข้อมูล จำนวน 30 ชุด
4. พิมพ์เอกสารต่างๆ 20 ชุด
5. รับเอกสารจากห้องธุรการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาลงรายระเอียด แล้วนำส่งให้หัวหน้ากลุ่มระบบเครือข่าย
6. Add Printer จำนวน 1 เครื่อง

ปัญหา
- บางครั้งบุคลากรโทรมาเพื่อเเจ้งปัญหาการใช้ Internet ทางจังหวัดอื่นๆ แต่ในการตรวจสอบจริงทางเว็ปไซต์ไม่ได้มีปัญหาใดๆ จึงทำให้สับสนว่ามีปัญหาจริงหรือไม่ หรือทางพาณิชย์จังหวัดแก้ไขได้เรียบร้อยแล้ว

วิธีแก้ไขปัญหา
- สอบถามพี่ที่ดูแลเรื่องนี้ และให้อธิบายให้ฟังอย่างเข้าใจ

สิ่งที่ได้รับต่อการฝึกงาน
- มีความเป็นระเบียบต่อการฝึกงานมากขึ้น
- รู้จักแก้ไข กับปัญหา

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 9 ตั้งเเต่วันที่ 24-30 ธันวาคม 2553

สัปดาห์ที่ 9 ของการฝึกงาน

วันที่ 24-30 ธันว่าคม 2553


งานที่ได้รับมอบหมาย

1. คีย์ข้อมูล จำนวน 15 ชุด
2. รับแจ้งปัญหาการใช้ Internet/Intranet สำนักงานพาณิชย์จังหวัด จำนวน 74 จังหวัด ผ่าน http://110.164.202.116/
3. รับโทรศัพท์การแจ้งปัญหาการใช้ pc/pr และปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับ Computer ภายในกระทรวงจำนวนทั้งหมด 40 เครื่อง พ้องกับเขียนรายละเอียดไว้ แล้วส่งไปให้ช่างอีกครั้ง เพื่อให้ช่างดำเนินการต่อไป
4. จัดเอกสาร เดินเอกสารต่างๆภายในกระทรวง
5. Add printer จำนวน 8 เครื่อง

ปัญหา
- การ Add printer ไม่สำเร็จ

การแก้ปัญหา
- สอบถามพี่ที่เป็นช่างคอม แล้วลองทำใหม่อีกครั้ง

สิ่งที่ได้รับต่อการฝึกงาน
- ได้เรียนรู้ศึกษาต่องานใหม่ๆที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น
- รู้จักการ Add printer และยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 8 ตั้งเเต่วันที่ 20-24 ธันวาคม 2553...

สัปดาห์ที่ 8 ของการฝึกงาน

วันที่ 20 - 24 ธันวาคม 2553


งานที่ได้รับมอบหมาย
1. รับแจ้งปัญหาและตรวจสอบการใช้ Internet/Intranet สำนักงานพาณิชย์จังหวัดผ่าน http://110.164.202.116/ จำนวน 74 จังหวัด
2. จัดเอกสารนำเอกสารให้หัวหน้ากลุ่มพค.เซนต์ จำนวน 15 ชุด
3. รับโทรศัพท์การแจ้งปัญหาของเครื่อง PC/PR การติดตั้งโปรแกรม และอุปกรณ์เครื่องคอมพิมเตอร์ ภายในกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 60เครื่อง พร้อมทั้งเขียนรายละเอียดเพื่อส่งไปให้ช่างคอมดำเนินการ
4. คีย์ข้อมูล 20 ชุด
5. พิมพ์แบบรับแจ้งเครื่องขัดข้อง พร้อมปริ๊น จำนวน 120 แผ่น
6. ศึกษาการเซ็ตเครื่อง จำนวน 5 เครื่อง
7. ปั๊มตรายางชื่อ ผอ.ศทส. จำนวน 60 แผ่น พร้อมทั้งติดสแตมป์หน้าซอง

ปัญหา
- ไม่พบปัญหาใดๆ

สิ่งที่ได้รับต่อการฝึกงาน
- รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่การทำงาน
- ทำงานอย่างมีระบบมากขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 7 ตั้งเเต่วันที่ 13-17 ธันวาคม 2553

สัปดาห์ที่ 7 ของการฝึกงาน
สัปดาห์นี้เป็นการย้ายแผนกสลับกับเพื่อนที่ฝึกด้วยกันเพื่อศึกษา การทำงานให้หน้าที่ด้านต่างๆ
งานที่ได้รับมอบหมาย
1. รับแจ้งปัญหาการใช้ Internet/Intranet สำนักงานพาณิชย์จังหวัด พร้อมตรวจสอบสภาพผ่าน http://110.164.202.116/
2. เดินเอกสาร พิมพ์เอกสาร คีย์ข้อมูล
3. ร่วมงานสัมนา
4. รับแจ้งปัญหาการใช้คอมพิวเตอร์ต่างๆภายในกระทรวงพาณิชย์
5. ลงรายละเอียดของเอกสารต่างๆ

ปัญหา
- ในการย้ายแผนกอาจจะยังไม่มีความเข้าใจในการทำงานด้านนี้

วิธีแก้ไขปัญหา
- เมื่อสงสัยหรือไม่แน่ใจก็ถามพี่และเพื่อนที่เคยทำแผนกนี้

สิ่งที่ได้รับต่อการฝึกงาน
- รู้จักรับผืดชอบต่อการทำงาน
- ได้ร่วมงานสัมนาของกระทรวงพาณิชย์

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 6 ตั้งเเต่วันที่ 6-10 ธันวาคม 2553

สัปดาห์ที่ 6 ของการฝึกงาน

สัปดาห์นี้ก็ได้ทำงานหน้าที่ก้อเหมือนเช่นเดิม มีการตรวจความถูกต้องของเอกสารตามแบบฉบับ มีการคิดค่าธรรมเนียมและผลต่างต่างๆของเอกสาร การคัดแยกจัดเรียงเอกสาร การสรุปแผนงานการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2554 ของ ศทส. ตามตั้นแบบฉบับจริง ในโปรแกรม Microsoft Word และ Excel การนำเอกสารไปให้บุคลากรเซนต์
ทำงานธุรการทั่วไป งานพื้นฐานเหมือนปกติ งานร่างหนังสือ นำข้อมูลต่างๆเข้าโปรแกรม
นำข้อมูลเข้าโปรแกรม World Trade Atlas ของประเทศ Romania ในการนำเข้า และส่งออกกับประเทศอื่น จำนวน 30 ประเทศ

ปัญหาที่เกิดขึ้นในการฝึกงานในสัปดาห์ที่ 6
- การตรวจสอบเอกสารอาจเกิดการผิดพลาดได้เสมอและทำให้เกิดความล่าช้า
- บางทีอาจไม่เข้าใจในเอกสารบางอย่าง

วิธีแก้ไขปัญหา
- ต้องตรวจสอบเอกสารให้ระเอียดรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาดได้ หากไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ๆให้มั่นใจ

ประโยชน์ที่ได้รับต่อการฝึกงาน
- ได้เรียนรู้กับงานที่ได้รับมอบหมาย
- ได้รู้จักการนำข้อมูลเข้าโปรแกรม World Trade Atlas ของประเทศ Romania


วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 5 ตั้งเเต่วันที่ 29พฤศจิกายน -3 ธันวาคม 2553

สัปดาห์ที่ 5 ของการฝึกงาน

ทำงานธุรการทั่วไป งานพื้นฐานเหมือนปกติ งานร่างหนังสือ เรียกเอกสารจากระบบ เดินเอกสารไปยังห้องต่างๆ ร่างข้อมูลเข้าสู่ระบบของกระทรวงพาณิชย์ ออกเลขของเอกสาร
1. เดินเอกสารไปยังกองต่างๆภายในกระทรวงพาณิชย์

2. ทดลองใช้ Thai os (เป็นซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ โดยใช้ Ubuntu)
3. นำน้ำและขนมโดยจัดวางให้เรียบร้อย มาเสริฟ ณ ห้องประชุม 30520 ของศทส.
4. ตรวจสอบเอกสารตามรูปแบบต้นฉบับ
5. จัดทำเอกสาร ปริ๊นเอกสาร
6. รับแฟ้มเวียนให้บุคลากรเซนต์รับทราบเรื่อง "การเข้าร่วมพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช

7. นำข้อมูลเข้าโปรแกรม World Trade Atlas ของประเทศเปรู ในการส่งออกกับประเทศอื่นๆ จำนวน 40 ประเทศ
8. นำข้อมูลเข้า World Trade Atlas ของประเทศ Poland ในการน้ำเข้าและส่งออก กับประเทศอื่นๆ จำนวน 40ประเทศ
9. คิดคำนวณผลต่างตั้งแต่ 1-10 ปี ของอัตรา ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโดเมนใหม่ และค่าธรรมเยมต่ออายุโดเมน

ปัญหาที่เกิดขึ้นในการฝึกงานในสัปดาห์ที่ 5
- เรียนรู้ทำความเข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมายหลัก
- ไม่เข้าใจเรื่องประเภทของเอกสาร การออกเลขที่เอกสาร

วิธีแก้ไขปัญหา
- ดูขึ้นตอนการปฎบัติแล้วทำตามคำแนะนำ
- สอบถามพี่ที่ดูแล


ประโยชน์ที่ได้รับต่อการฝึกงาน
- สามารถนำข้อมูลเข้าโปรแกรมWorld Trade Atlas ได้อย่างถูกต้อง
- ทำให้รับผิดชอบต่อการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 4 ตั้งเเต่วันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2553

สัปดาห์ที่ 4 ของการฝึกงาน

ทำงานธุรการทั่วไป งานพื้นฐานเหมือนปกติ
งานร่างหนังสือ ถ่ายเอกสาร เดินเอกสารไปยังห้องต่างๆของกระทรวงพาณิชย์ จัดเอกสาร

1. พิมพ์ใบเบิกเงินสวัสดิการ
2. เดินเอกสารไปยังห้องตามกรมต่างๆภายในกระทรวงพาณิชย์
3. นำใบรับรองเงินเดือน-ค้างประจำและเงินเดือนอื่นจากกองคลังฝ่ายการเงินไปให้บุคลากรในศทส. ของแต่ละฝ่าย
4. เช็คตรวจสอบ แก้ไขข้อมูลว่าตรงกันกับต้นฉบ้บหรือไม่พร้อมกับร่างบังทึกข้อความ
5. โทรตวจสอบเอกสารเรื่อง "การเสนอคำของบประมาณด้านวิจัย พร้อมกับปริ๊นออกมาให้เรียบร้อยและส่งไปให้ หัวหน้ากลุ่ม ของฝ่ายศทส.
6. ช่วยพี่เปลี่ยนสีของเครื่องปริ๊น
7. ร่างบันทึกข้อความ ขอเชิญประชุม ผู้อำนวยการสถาบันกรมพระจัททบุรีนฤนาถ
8. ตรวจสอบเอกสารการบูรณาการระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงพาณิชย์
9. ส่งFax ต่างๆ
10. จัดเอกสาร แยกให้ถูกต้อง
11. ทดลองให้ Thai os (เป็นซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ โดยใช้ Ubuntu)
12. นำแฟ้มเวียนให้บุคลากรเซนต์

ปัญหาที่เกิดขึ้นในการฝึกงานในสัปดาห์ที่ 4
- เรียนรู้ทำความเข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมายหลัก
- ไม่เข้าใจเรื่องประเภทของเอกสาร การออกเลขที่เอกสาร
- อาจยังไปห้องที่ต้องการผิดบ้างถูกบ้าง

วิธีแก้ไขปัญหา
- ดูขึ้นตอนการปฎบัติแล้วทำตามคำแนะนำ
- สอบถามพี่ที่ดูแล
- รู้จักสอบถามและจดจำอยู่เสมอ


สิ่งที่ได้รับต่อการฝึกงาน
- มีความระเอียดรอบคอบ ต่องานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น
- ทำให้มีการเรียนรู้งานใหม่ๆ มากขึ้น และทำให้ออกเลขเอกสารเป็น

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 3 ตั้งเเต่วันที่ 15-19 พฤศจิกายน 2553

สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกงาน

ทำงานธุรการทั่วไป งานพื้นฐานเหมือนปกติ
ได้รับมอบหมายงานเป็น หน้าที่หลัก คือร่างหนังสือเข้าระบบ
1. ตรวจสอบเอกสารตามรู้แบบต้นฉบับ

2. เดินเอกสารไปยังห้องต่างๆภานในกระทรวงพาณิชย์
3. พิมพ์เอกสารการร่างแม่บทเทคโนโลยีและการสื่อสาร พร้อมทั้งปรินส์ออกมาให้เรียบร้อย
4. คัดลอกเอกสารต่างๆโดยการซีล็อค
5. นำเอกสารไปให้ ผอ.ศทส.เนต์ด่วน ณ ห้องประชุม
6. คีย์ข้อมูลยุทธศาสตร์การค้าไทยและแบบสำรวจครุภัณฑ์สำนักงานศทส.

ปัญหาที่เกิดขึ้นในการฝึกงานในสัปดาห์ที่ 3
- เรียนรู้ทำความเข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมายหลัก
- ปัญหาการร่างหนังสือเข้าระบบ

วิธีแก้ไขปัญหา
- ดูขึ้นตอนการปฎบัติแล้วทำตามคำแนะนำ
- สอบถามพี่ที่ดูแล สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกงาน


สิ่งที่ได้รับจากการฝึกงาน
- ได้รู้จักว่ากรม และกองต่างๆอยู่ส่วนใดของกระทรวงพาณิชย์ มากขึ้น




วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 2 ตั้งเเต่วันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2553

งานที่ได้รับมอบหมาย
ทำงานธุรการทั่วไป งานพื้นฐานเหมือนปกติ เช่น จัดบอร์ดต่างๆ ยกของ ถ่ายเอกสาร รับ-ส่งเอกสาร พิมพ์งาน จัดเอกสาร แต่มีเพิ่มเติมคือ การร่างหนังสือเข้าสู้ระบบ

1. ทำบันทึกข้อความ แฟ้มเวียน และส่งไปให้หัวหน้าของกลุ่มต่างๆ และบุคลากร เซนต์รับทราบ เพื่อโปรดเข้าร่วมงานต่างๆ
2. พิมพ์เอกสาร
3. โทรแจ้งข้อมูลห้องต่างๆ ว่ามีคอมพิวเตอร์ใช้ไม่ได้และให้รีบมาแก้ไขด่วน
4. ประดิษฐ์ของตกแต่งๆต่างๆเพื่อนำไปจัดบอร์ด
5. ช่วยพี่ๆจัดห้องประชุมเตรียมพร้อมก่อนที่บุคลากรจะเข้าประชุม 1ห้องนำหนังสือและเอกสารของศทส. มาร่างเข้าสู่ระบบพร้อมทั้งไลท์แผ่นซีดี6. เข้าร่วมงานเปิดตัว งานแถลงข่าว การเปิดตัวรายการทีวีพาณิชย์สร้างสรรค์
7. คีย์ข้อมูล การประชุมเงินกู้สามัญ ของเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ในโปรแกรม Microsoft Excel
8. ถ่ายเอกสารและจัดเอกสารออกเป็นชุดๆ
10. จัดบอร์ด
11. เดินเอกสารภายในกระทรวง

ปัญหาที่เกิดขึ้นในการฝึกงานในสัปดาห์ที่2
- เรียนรู้ทำความเข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมายหลัก
- ไม่เข้าใจเรื่องประเภทของเอกสาร
- พี่ที่ปรึกษาไม่กล้าให้ทางยากๆ มาทำเพราะเป็นนักศึกษาฝึกงานมาใหม่

วิธีแก้ไขปัญหา
- ดูขึ้นตอนการปฎบัติแล้วทำตามคำแนะนำ
- สอบถามพี่ที่ดูแล
- ขออาสาในการทำงาน


ประโยชน์ที่ได้รับ
- มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น
- มีความละเอียดรอบคอบต่อการทำงาน

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รายงานการปฏิบัติงาน สัปดาห์ที่ 1 ตั้งเเต่วันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2553

สัปดาห์แรกของการฝึกงาน

มารายงานตัวประจำกลุ่มงานในศทส ทั้งหมด 5 กลุ่ม คือ
* กลุ่มนโยบายและแผนเทคโนโลยี (บผ.)
* กลุ่มพัฒนาและให้บริการสารสนเทศ (บส.)
* กลุ่มพัฒนาระบบเครือข่ายกลางกระทรวง (พค.)
* กลุ่มพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (พส.)
* ฝ่ายบริหารงานทั่วไปของเทคโนโลยีสารสนเทศ (บท.)
ต่อจากนั้นก็แนะนำตัวทำความรู้จักกับพี่ๆ ที่ฝึกงานพร้อมทั้งส่งนักศึกษาทำงานแต่ละปผนกได้เรียนรู้ทำความเข้าใจกับหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมางานที่ได้รับมอบหมายของสัปดาห์แรกก็เป็นงานทั่วไป เช่น ยกของ ถ่ายเอกสาร รับ-ส่งเอกสาร พิมพ์งาน จัดเอกสาร และ
ศึกษาคู่มือต่างๆ เช่น
คู่มือแนะนำการใช้งานระบบกระดานข่าว INFOMA:PR News สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป จำนวน 1 เล่ม
ศึกษาคู่มือแนะนำการใช้งานระบบหนังสือเวียน INFOMA:DocCir สำหรับผู้ใชงานทั่วไป 1 เล่ม
ศึกษาคู่มือแนะนำการใช้งานระบบห้องประชุมอิเล็กทรอนิกส์ INFOMA:Resrve สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและสำหรับเจ้าหน้าที่เทคนิค


1.ช่วยพี่รับโน๊ตบุคไปติดตั้ง เตรียมพร้อม ณ ห้องประชุม และเดินเอกสารไปยังห้องต่างๆ ตามที่พี่ๆสั่ง พิมพ์เอกสาร และจัดเอกสาร
2.ศึกษาคู่มือแนะนำการใช้งานสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ระบบงานในโครงการบูรณาระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 1 เล่ม
3.ศึกษาคู่มือแนะนำการใช้งานสำหรับผู้บริหารระบบงานในโครงการบูรณาระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 1 เล่ม
4.ช่วยพี่ขึ้นไปจัดบอร์ด ณ ห้อง OR(ห้องปฏิบัติการโสมสวลี)ชั้น11 เกี่ยวกับ กระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และวิสัยทัศน์ และอื่นๆ
5.นำรายละเอียดการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน CTOR และร่างเอกสารประกวดราคาครุภัณฑ์ ไปยังห้องสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า จำนวน 22 ฉบับ พร้อมทั้งคีย์ข้อมูลลงในโปรแกรม
6.ช่วยพี่ไปจัดบอร์ด ณ ห้อง OR เนื่องจากมีบอร์ดขนาดใหญ่และเยอะมาก
7.ช่วยประดิษฐ์วัสดุอุปกรณ์ และตกแต่งให้สวยงาม

ปัญหาที่เกิดขึ้นในการฝึกงานในสัปดาห์แรก
- เรียนรู้ทำความเข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมายหลัก
- ไม่เข้าใจเรื่องประเภทของเอกสาร
- พี่ที่ปรึกษาไม่กล้าให้ทางยากๆ มาทำเพราะเป็นนักศึกษาฝึกงานมาใหม่
- ยังจำห้องต่างๆไม่ได้ ทำให้ส่งเอกสารล่าช้าไปบ้าง

วิธีแก้ไขปัญหาในการฝึกงานในสัปดาห์แรก
- ดูขึ้นตอนการปฎบัติแล้วทำตามคำแนะนำ
- สอบถามพี่ที่ดูแล
- ขออาสาในการทำงาน
- รู้จักจดจำและสอบถามอยู่เสมอ

สิ่งที่ได้รับในการฝึกงานสัปดาห์แรก
1. ได้รู้จักพี่ๆ ในแผนก ที่ฝึกงาน
2. ได้รู้จักการวางตัวในที่ทำงาน
3. ทำให้เป็นคนที่ตรงต่อเวลามากยิ่งขึ้น
4. ได้เรียนรู้และรู้จักการทำงานอย่างเป็นระบบ ระเบียบแบบแผนมากขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ
วันศุกร์ ที่ 26 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันปฐมนิเทศน์
- ได้รู้จักการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้าเรียนในรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
- ได้รู้กฏระเบียบของการเข้าเรียน การมาเรียนในรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
- ได้รู้การปฏิบัติตัวที่ดีให้อยู่ในกฏระเบียบที่วางไว้
- ได้รู้เกณฑ์การตัดสินคะแนนในรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

วันศุกร์ ที่ 3 เดือน กรกฏาคม พ.ศ. 2552
หลักการประกันคุณภาพ
- รู้จักความหมายของหลักการประกันคุณภาพ
- รู้ว่ามหาวิทยาลัยใช้หลักการประกันคุณภาพอย่างไร
- รู้จักการวางแผนในการทำงาน

วันศุกร์ ที่ 10 เดือน กรกฏาคม พ.ศ. 2552
คุณธรรมจริยธรรม
- ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม
- รู้จักหลักการดำเนินชีวิตในชีวิตประจำวัน
- ได้นำหลักธรรมที่เรียนมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
- ได้พัฒนาความรู้เกี่ยวกับการใช้ปัญญาแก้ปัญหา

วันศุกร์ ที่ 17 เดือน กรกฏาคม พ.ศ. 2552
การเงินส่วนบุคคล
- ได้ความรู้เกี่ยวกับแหล่งการเ งิน
- ได้จัดทำการบันทึกรายรับ-รายจ่ายให้ทราบเกี่ยวกับการใช้เงิน รู้จักการอดออม และการประหยัด
- ได้ความรู้เรื่องการบริหารการเงิน

วันศุกร์ ที่ 24 เดือน กรกฏาคม พ.ศ. 2552
การพัฒนาบุคคลิกภาพ
- รู้จักการแต่งกายให้ถูกระเบียบ ถูกกาละเทศะ และตามโอกาสต่างๆ
- รู้เรื่องการแต่งหน้าตามโอกาสต่างๆ
- ได้เรียนรู้เรื่องการพัฒนาบุคคลิกภาพตนเอง


วันศุกร์ ที่ 7เดือน สิงหาคม พ.ศ2552
กิจกรรมแขนงคอมพิวเตอร์
- ได้รู้จักการทำงานอย่างเป็นกระบวนการของแขนง
- ได้ช่วยงานอาจารย์ทำให้มีความรู้ในเรื่องของการทำงาน
- ได้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำงานของคอมพิวเตอร์
- ได้รู้ว่าหลังจากจบการศึกษาในแขนงวิชาคอมพิวเตอร์แล้วจะไปทำงานอะไรต่อไปใน
อนาคต

วันศุกร์ ที่ 14 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2552
กิจกรรมแขนงธุรกิจระหว่างประเทศ
- รู้จักในเรื่องของวัฒนธรรม ความเชื่อ แนวความคิดระหว่างประเทศ

วันศุกร์ ที่ 21 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2552
กิจกรรมแขนงการตลาด
- รู้จักเส้นทางแห่งความสำเร็จ
- รู้วิธีการดำเนินชีวิตที่ดี การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

วันศุกร์ ที่ 11 เดือน กันยายน พ.ศ. 2552
ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน
-รู้จักประเภทของภาษาไทย
- การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง
- การรักษาวัฒนธรรมการใช้ภาษาไทย
- การใช้ภาษาไทยในโอกาสต่างๆ

วันศุกร์ ที่ 18 เดือน กันยายน พ.ศ. 2552
วันปัจฉิมนิเทศ
- รู้จักการกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ
- การอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข สงบสุขในสังคม
- การแก้ปัญหาเมื่อปัญหาเกิดขึ้นอย่างถูกต้อง

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

DTS 11-16-09-2552

สรุปเนื้อหาบทเรียน "Data Structure"
เรื่อง Searching

การค้นหาข้อมูล searching แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.การค้นหาข้อมูลแบบภายใน
2.การค้นหาข้อมูลแบบภายนอก

การค้นหาแบบเชิงเส้นหรือการค้นหาตามลำดับ (Linear)
ใช้กับข้อมูลที่ยังไม่ได้เรียงลำดับ มีวิธีโดยการนำข้อมูลที่ต้องการหามาเปรียบเทียบกับข้อมูลในแถวลำดับ ถ้าค่าข้อมูลที่ต้องการหาไม่ตรงกับค่าข้อมูลในแถวลำดับก็ทำการค้นหาไปเรื่อยๆ จนเจอค่าข้อมูลที่ต้องการจึงจะหยุดการค้นหา หรือจะหยุดการค้นหาก็ต่อเมื่อไม่พบค่าข้อมูล

การค้นหาแบบเซนทินัล (Sentinel)
มีลักษณะเช่นเดียวกับการค้นหาแบบเชิงเส้น แต่การค้นหานั้นเป็นการเปรียบเทียบค่าน้อยกว่าการค้นหาแบบเชิงเส้น มีวิธีโดยการเพิ่มพื้นที่ที่เก็บข้อมูลอีก 1 ที่ แล้วนำข้อมูลที่ต้องการค้นหาไปใส่ไว้ที่ต้น หรือท้ายอาเรย์ แล้วทำการตรวจสอบ ถ้าตำแหน่งที่พบเท่ากับ n-1 แสดงว่าหาข้อมูลไม่พบ นอกนั้นถือว่าพบข้อมูลที่ต้องการค้นหา

การค้นหาแบบไบนารี (Binary Search)
จะใช้กับข้อมูลที่เรียงลำดับแล้วเท่านั้น โดยแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ส่วน การค้นหาเป็นวิธีค้นหาที่ไปยังค่ากลางเพื่อตรวจสอบหรือเปรียบเทียบว่าใช่ข้อมูลที่ต้องค้นหาหรือไม่ และจะละทิ้งข้อมูลส่วนหน้าหรือส่วนหลังขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่ต้องการค้นหามีค่ามากกว่า หรือน้อยกว่าข้อมูลค่ากลาง

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

DTS 10-09-09-2552


Graph (ต่อ) และ Sorting

กราฟมีน้ำหนัก หมายถึง กราฟที่ทุกเอดจ์ มีค่าน้ำหนักกำกับ ซึ่งค่าน้ำหนักอาจสื่อถึงระยะทาง เวลา ค่าใช้จ่าย เป็นต้น นิยมนำไปใช้แก้ปัญหาหลัก ๆ 2 ปัญหา คือ1. การสร้างต้นไม้ทอดข้ามน้อยที่สุด(Minimum Spanning Trees :MST)1. เรียงลำดับเอดจ์ ตามน้ำหนัก2. สร้างป่าที่ประกอบด้วยต้นไม้ว่างที่มีแต่โหนด และไม่มีเส้นเชื่อม3. เลือกเอดจ์ที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดและยังไม่เคยถูกเลือกเลย ถ้ามีน้ำหนักซ้ำกันหลายค่าให้สุ่มมา 1เส้น4. พิจารณาเอดจ์ที่จะเลือก ถ้านำมาประกอบในต้นไม้ทอดข้ามน้อยที่สุดแล้วเกิด วงรอบ ให้ตัดทิ้งนอกนั้นให้นำมาประกอบเป็นเอดจ์ในต้นไม้ทอดข้ามน้อยที่สุด5. ตรวจสอบเอดจ์ที่ต้องอ่านในกราฟ ถ้ายังอ่านไม่หมดให้ไปทำข้อ 32. การหาเส้นทางที่สั้นที่สุด (Shortest path) Dijkstra’s Algorithmหาเส้นทางที่สั้นที่สุดจากโหนดต้นทางไปโหนดใด ๆ ในกราฟ มีน้ำหนัก และน้ำหนักไม่เป็นลบข้อกำหนดให้ เซต S เก็บโหนดที่ผ่านได้และมีระยะทางห่างจากจุดเริ่มต้นสั้นที่สุดให้ W แทนโหนด นอกเซต Sให้ D แทนระยะทาง (distance) ที่สั้นที่สุดจากโหนดต้นทางไปโหนดใด ๆ ในกราฟ โดยวิถีนี้ประกอบด้วย โหนดในเชตให้ S ถ้าไม่มีวิถี ให้แทนด้วยค่าอินฟินีตี้ (Infinity) : ∞


Sorting


การเรียงลำดับ (sorting) เป็นการจัดให้เป็นระเบียบมีแบบแผน ช่วยให้การค้นหาสิ่งของหรือข้อมูล ซึ่งจะสามารถกระทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น การค้นหาคำตามตัวอักษรไว้อย่างมีระบบและเป็นระเบียบ หรือ การค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ในสมุดโทรศัพท์ ซึ่งมีการเรียงลำดับ ตามชื่อและชื่อสกุลของเจ้าของโทรศัพท์ไว้ ทำให้สามารถค้นหา หมายเลขโทรศัพท์ของคนที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการเรียงลำดับสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ(1)การเรียงลำดับแบบภายใน (internal sorting)เป็นการเรียงลำดับที่ข้อมูลทั้งหมดต้องอยู่ในหน่วยความจำหลัก เวลาที่ใช้ในการเรียงลำดับจะคำนึงถึงเวลาที่ใช้ในการเปรียบเทียบและเลื่อนข้อมูลภายในความจำหลัก(2) การเรียงลำดับแบบภายนอก(external sorting) เป็นการเรียงลำดับข้อมูลที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำสำรอง ซึ่งเป็นการเรียงลำดับข้อมูลในแฟ้มข้อมูล (file) เวลาที่ใช้ในการเรียงลำดับต้องคำนึงถึงเวลาที่เสียไประหว่างการถ่ายเทข้อมูลจากหน่วยความจำหลักและหน่วยความจำสำรองนอกเหนือจากเวลาที่ใช้ในการเรียงลำดับข้อมูลแบบภายในการเรียงลำดับแบบเลือก (selection sort)ทำการเลือกข้อมูลมาเก็บในตำแหน่งที่ ข้อมูลนั้นควรจะอยู่ทีละตัว โดยทำการค้นหาข้อมูลนั้นในแต่ละรอบแบบเรียงลำดับ
การเรียงลำดับแบบเลือกเป็นวิธีที่ง่าย แต่เสียเวลาในการจัดเรียงนาน โดยจะทำการเลือกข้อมูลมาเก็บไว้ตามตำแหน่งที่กำหนด คือ กำหนดให้เรียงข้อมูลจากค่าน้อยไปหาค่ามาก ก็จะทำการเลือกข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยที่สุดมาอยู่ที่ตำแหน่งแรกสุด และค่าที่อยู่ตำแหน่งแรกก็จะมาอยู่แทนที่ค่าน้อยสุด แล้วทำการเลือกไปเรื่อยๆ จนครบทุกค่า ค่าที่ได้ก็จะเรียงจากน้อยไปหามาก


การเรียงลำดับแบบฟอง (Bubble Sort)
เป็นวิธีการเรียงลำดับที่มีการเปรียบเทียบข้อมูลในตำแหน่งที่อยู่ติดกัน

1. ถ้าข้อมูลทั้งสองไม่อยู่ในลำดับที่ถูกต้องให้สลับตำแหน่งที่อยู่กัน

2. ถ้าเป็นการเรียงลำดับจากน้อยไปมากให้นำข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยกว่าอยู่ในตำแหน่งก่อนข้อมูลที่มีค่ามาก ถ้าเป็นการเรียงลำดับจากมากไปน้อยให้นำข้อมูล ตัวที่มีค่ามากกว่าอยู่ในตำแหน่งก่อนข้อมูลที่มีค่าน้อย


การเรียงลำดับแบบแทรก (insertion sort)
เป็นวิธีการเรียงลำดับที่ทำการเพิ่มสมาชิกใหม่เข้าไปในเซต ที่มีสมาชิกทุกตัวเรียงลำดับอยู่แล้ว และทำให้เซตใหม่ที่ได้นี้มีสมาชิกทุกตัวเรียงลำดับด้วย วิธีการเรียงลำดับจะ1. เริ่มต้นเปรียบเทียบจากข้อมูลในตำแหน่งที่ 1 กับ 2หรือข้อมูลในตำแหน่งสุดท้ายและรองสุดท้ายก็ได้ถ้าเป็นการเรียงลำดับจากน้อย ไปมาก2. จะต้องจัดให้ข้อมูลที่มีค่าน้อยอยู่ในตำแหน่งก่อนข้อมูลที่มีค่ามาก และถ้าเรียงจากมากไปน้อยก็จะจัดให้ข้อมูลที่มีค่ามากอยู่ในตำแหน่งก่อน
การเรียงลำดับแบบฐานเป็นวิธีที่พิจารณาเลขที่ละหลัก โดยจะพิจารณาเลขหลักหน่วยก่อน แล้วทำการจัดเรียงข้อมูลทีละตัวตามกลุ่มหมายเลข จากนั้นนำข้อมูลที่จัดเรียงในหลักหน่วยมาจัดเรียงในหลักสิบต่อไปเรื่อยๆจนครบทุกหลัก ก็จะได้ข้อมูลที่ต้องการ การเรียงลำดับแบบฐานไม่ซับซ้อน แต่ใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำมาก

DTS 09-02-09-2552

Tree(ทรี) (ต่อ)
เอ็กซ์เพรสชันทรี (Expression Tree)



เป็นการนำเอาโครง สร้างทรีไปใช้เก็บนิพจน์ทางคณิตศาสตร์โดยเป็นไบนารีทรี ซึ่งแต่ละโหนดเก็บตัวดำเนินการ (Operator) และและตัวถูกดำเนินการ(Operand) ของนิพจน์คณิตศาสตร์นั้น ๆ ไว้ หรืออาจจะเก็บค่านิพจน์ทางตรรกะ (Logical Expression)นิพจน์เหล่านี้เมื่อแทนในทรีต้องคำนึงลำดับขั้นตอนในการคำนวณตาม ความสำคัญของเครื่องหมายด้วยโดยมีความสำคัญตามลำดับดังนี้
- ฟังก์ชัน
- วงเล็บ ( )
- ยกกำลัง
- เครื่องหมายหน้าเลขจำนวน
- คูณ หรือ หาร * /
- บวก หรือ ลบ + -
- ถ้ามีเครื่องหมายที่ระดับเดียวกันให้ทำจากซ้ายไปขวา
การ แทนนิพจน์ในเอ็กซ์เพรสชันทรี ตัวถูกดำเนินการจะเก็บอยู่ที่โหนดใบส่วนตัวดำเนินการจะเก็บในโหนดกิ่งหรือ โหนดที่ไม่ใช่โหนดใบเช่น นิพจน์ A + B สามารถแทนในเอ็กซ์เพรสชันทรีได้ดังนี้



ไบนารีเซิร์ชทรี (Binary Search Tree)
เป็นไบนารีทรีที่มีคุณสมบัติที่ว่าทุก ๆ โหนดในทรี ค่าของโหนดรากมีค่ามากกว่าค่าของทุกโหนดในทรีย่อยทางซ้าย และมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับค่าของทุกโหนดในทรีย่อยทางขวา และในแต่ละทรีย่อยก็มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน ค่าข้อมูลในทรีย่อยทางซ้าย < ค่าข้อมูลที่โหนดราก < ค่าข้อมูลในทรีย่อยทางขวา กราฟ(Graph) กราฟ เป็นโครงสร้างข้อมูลแบบไม่ใช่เชิงเส้นที่ประกอบด้วยกลุ่มของสิ่งสองสิ่งคือ1. โหนด (nodes) หรือ เวอร์เทกซ์ (vertexes)2. เส้นเชื่อมระหว่างโหนด เรียก เอ็จ (edges) กราฟที่มีเอ็จเชื่อมระหว่างโหนดสองโหนด ถ้าเอ็จไม่มีลำดับความสัมพันธ์จะเรียกกราฟนั้นว่า กราฟแบบไม่มีทิศทาง (undirected graphs) และถ้ากราฟนั้นมีเอ็จที่มีลำดับความสัมพันธ์หรือมีทิศทางกำกับด้วยเรียกกราฟนั้นว่า กราฟแบบมีทิศทาง (directed graphs) บางครั้งเรียกว่า ไดกราฟ (digraph)โดยทั่ว ๆ ไปการเขียนกราฟเพื่อแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของสิ่งที่เราสนใจแทนโหนดด้วย จุด (pointes) หรือวงกลม (circles) ที่มีชื่อหรือข้อมูลกำกับ เพื่อบอกความแตกต่างของแต่ละโหนด และเอ็จแทนด้วยเส้นหรือเส้นโค้งเชื่อมต่อระหว่างโหนดสองโหนด ถ้าเป็นกราฟแบบมีทิศทางเส้นหรือเส้นโค้งต้องมีหัวลูกศรกำกับทิศทางของความสัมพันธ์ด้วย ** กราฟแบบไม่มีทิศทางเป็นเซตแบบจำกัดของโหนดและเอ็จ โดยเซตอาจจะว่างไม่มีโหนดหรือเอ็จเลยเป็นกราฟว่าง (empty graph) แต่ละเอ็จจะเชื่อมระหว่างโหนดสองโหนด หรือเชื่อมตัวเอง เอ็จไม่มีทิศทางกำกับ ลำดับของการเชื่อมต่อกันไม่สำคัญ นั่นคือไม่มีโหนดใดเป็นโหนดแรก (first node) หรือไม่มีโหนดเริ่มต้นไม่มีโหนดใดเป็นโหนดสิ้นสุด **ส่วนกราฟแบบมีทิศทาง เป็นเซตแบบจำกัดของโหนดและเอ็จ โดยเซตอาจจะว่างไม่มีโหนดหรือเอ็จเลยเป็นกราฟว่าง (empty graph) แต่ละเอ็จจะเชื่อมระหว่างโหนดสองโหนด เอ็จมีทิศทางกำกับแสดงลำดับของการเชื่อมต่อกัน โดยมีโหนดเริ่มต้น (source node) และโหนดสิ้นสุด (target node)

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

DTS08-26/08/2552

ทรี (Tree)


ทรี (Tree) เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ความสัมพันธ์ระหว่าง โหนดจะมีความสัมพันธ์ลดหลั่นกันเป็นลำดับชั้น (Hierarchical Relationship) ได้มีการนำรูปแบบทรีไปประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ อย่างแพร่หลาย ส่วนมากจะใช้สำหรับแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล

การเรียกชื่อองค์ประกอบของทรี
โหนดที่อยู่ระดับบนสุดของทรี = โหนดแม่
โหนดที่อยู่ต่ำกว่าโหนดแม่ = โหนดลูก
โหนดที่อยู่ระดับสูงสุดและไม่มีโหนดแม่ = โหนดราก
โหนดที่ไม่มีโหนดลูก = โหนดใบ
โหนดที่มีทั้งแม่และลูก = โหนดกิ่ง
โหนดที่มีแม่เดียวกัน = โหนดพี่น้อง

นิยามของทรี
1.) ด้วยนิยามของกราฟ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
-โหนดสองโหนดใด ๆ ในทรีต้องมีทางติดต่อกันทางเดียวเท่านั้น
-ทรีที่มี N โหนด ต้องมีกิ่งทั้งหมด N-1 เส้น
การเขียนรูปแบบทรีด้วยนิยามของกราฟสามารถเขียนได้ 4 แบบ
1.)แบบที่มีรากอยู่ด้านบน
2.)แบบที่มีรากอยู่ด้านล่าง
3.)แบบที่มีรากอยู่ด้านซ้าย
4.)แบบที่มีรากอยู่ด้านขวา

2.) ด้วยรูปแบบรีเคอร์ซีฟ กรณีที่โหนดว่างเรียกว่า (Null Tree) ถ้ามีโหนดเป็นโหนดราก ส่วนที่เหลือจะเป็นทรีย่อย
3.) นิยามที่เกี่ยวข้อง

1.)ฟอร์เรสต์ คือ การนำโหนดรากออก ส่วนทรีย่อยจะเป็นฟอร์เรสต์
2.)ทรีที่มีแบบแผน คือ โหนดต่างๆ มีความสัมพันธ์กัน จะแตกต่างกันตรงที่ทิศทางการเดินของข้อมูล แต่เหมือนกันตรงที่ มีจำนวนโหนดในทรีเท่ากัน และใช้ชื่อโหนดเหมือนกัน
3.)ทรีคล้าย คือ ทรีที่มีทิศทางการเดินของข้อมูลเหมือนกัน ถึงแม้ชื่อโหนดจะต่างกัน
4.)ทรีเหมือน คือ ทรีที่เหมือนกันทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ทิศทางการเดินของข้อมูล ชื่อของโหนด จำนวนโหนด
5.)กำลัง คือ จำนวนโหนดลูกของโหนดนั้นๆ
6.)ระดับของโหนด คือ ชั้นของโหนดที่ระบุด้วยหมายเลข โดยกำหนดให้โหนดรากอยู่ในระดับที่ 1 และไล่ระดับของโหนดด้วยการเพิ่มจำนวนทีละ 1

การแทนที่ทรีในหน่วยความจำหลัก
1.) โหนดแต่ละโหนดเก็บพอยเตอร์ชี้ไปยังโหนดลูกทุกโหนด ซึ่งจะทำให้ฟิลด์มีจำนวนเท่ากัน มีขนาดเท่ากับโหนดที่มีลูกมากที่สุด โหนดที่ไม่มีลูกใส่ค่า Null แล้วให้ลิงค์ฟิลด์เก็บค่าพอยเตอร์ของโหนดลูกตัวถัดไปเรื่อยๆ เช่น ลิงค์ฟิลด์แรกเก็บค่าพอยเตอร์ชี้ไปยังโหนดลูกลำดับแรก แต่การแทนที่ทรีด้วยวิธีนี้เป็นการสิ้นเปลืองเนื้อที่โดยใช่เหตุเนื่องจากว่าโหนดบางโหนดอาจมีโหนดลูกน้อย หรือไม่มีโหนดลูกเลย
2.) แทนทรีด้วยไบนารีทรี จะมีการกำหนดโหนดทุกโหนดให้มีจำนวนลิงค์ฟิลด์เพียงสองลิงค์ฟิลด์ โดยลิงค์ฟิลด์แรกเก็บที่อยู่โหนดลูกคนโต ลิงค์ฟิลด์ที่สองเก็บที่อยู่โหนดพี่น้อง กรณีไม่มีโหนดลูกและโหนดพี่น้องใส่ Null การแทนที่ทรีด้วยวินี้เป็นการประหยัดเนื้อที่ได้มาก
ไบนารีทรีแบบสมบูรณ์นั้นจะมีโหนดทรีย่อยทางด้านซ้ายและขวา ยกเว้นโหนดใบหรือโหนดที่ไม่มีลูก แต่โหนดใบจะต้องอยู่ในระดับเดียวกัน

การแปลงทรีทั่วไปให้เป็นไบนารีทรี มีขั้นตอนดังนี้
1.ให้โหนดแม่ชี้ไปยังโหนดลูกคนโตแล้วตัดความสัมพันธ์ระหว่างโหนดลูกอื่นๆ
2.เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างโหนดพี่น้อง
3.ให้ทรีย่อยทางขวาเอียงลงมา 45 องศา

การท่องไปในไบนารีทรี
เป็นการเยือนทุกๆโหนด อย่างมีระบบแบบแผน สามารถเยือนโหนดได้โหนดละหนึ่งครั้ง วิธีการท่องนั้นอยู่ที่ว่าต้องการลำดับการเยือนอย่างไร โดย
- N อาจเป็นโหนดแม่
- L ทรีย่อยทางซ้าย
- R ทรีย่อยทางขวา

วิธีการท่องไปในทรีมี 6 วิธี แต่นิยมใช้กันมากคือ NLR , LNR , LRN
1.) การท่องไปแบบพรีออร์เดอร์ เป็นการเยือนด้วยวิธี NLR ในลักษณะการเข้าถึงจะเริ่มต้นจากจุดแรกคือ N จากนั้นจึงเข้าไปทรีย่อยด้านซ้ายและเข้าถึงทรีย่อยด้านขวา
2. ) การท่องไปแบบอินออร์เดอร์ เป็นการเยือนด้วยวิธี LNR สำหรับการเข้าถึงแบบอินออร์เดอร์จะดำเนินการเข้าเยี่ยมทรีย่อยด้านซ้ายก่อน จากนั้นจึงเข้าเยี่ยม N และสิ้นสุดการเข้าเยี่ยมที่ทรีย่อยด้านขวา
3. ) การท่องไปแบบโพสออร์เดอร์ เป็นการเยือนด้วยวิธี LRN การประมวลผลของโพสออร์เดอร์ จะเริ่มต้นด้วยทรีย่อยด้านซ้ายจานั้นมาประมวลผลต่อที่ทรีย่อยด้านขวาและสิ้นสุดการประมวลผลที่ N


วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

DTS 07-05-08-2552

Queues

คิวเป็นโครงสร้างข้อมูลแบบลำดับ (Sequential) ลักษณะของคิวเราสามารถพบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเข้าแถวตามคิวเพื่อรอรับบริการต่างๆ ลำดับการสั่งพิมพ์งาน เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าลักษณะของการทำงานจะเป็นแบบใครมาเข้าคิวก่อนจะ ได้รับบริการก่อน เรียกได้ว่าเป็นลักษณะการทำงานแบบ FIFO (First In , First Out)

ลักษณะของคิว จะมีปลายสองข้าง ซึ่งข้างหนึ่งจะเป็นช่องทางสำหรับข้อมูลเข้าที่เรียกว่า REAR และอีกข้างหนึ่งซึ่งจะเป็นช่องทางสำหรับข้อมูลออก เรียกว่า FRONT


ในการทำงานกับคิวที่ต้องมีการนำข้อมูลเข้าและออกนั้น จะต้องมีการตรวจสอบว่าคิวว่างหรือไม่ เมื่อต้องการนำข้อมูลเข้า เพราะหากคิวเต็มก็จะไม่สามารถทำการนำข้อมูลเข้าได้ เช่นเดียวกัน เมื่อต้องการนำข้อมูลออกก็ต้องตรวจสอบด้วยเช่นกัน ว่าในคิวมีข้อมูลอยู่หรือไม่ หากคิวไม่มีข้อมูลก็จะไม่สามารถนำข้อมูลออกได้เช่นกัน

การแทนที่ข้อมูลของคิว มี 2 วิธี คือ

1.การ แทนที่ข้อมูลของคิวแบบอะเรย์ ซึ่งเป็นการจัดสรรเนื้อที่หน่วยความจำแบบสแตติก นั่นคือ มีการกำหนดขนาดของคิวล่วงหน้าว่ามีขนาดเท่าใดและจะมีการจัดสรรเนื้อที่หน่วย ความจำให้เลย

2.การแทนที่ข้อมูลของคิวแบบลิงค์ลิสต์ ประกอบไปด้วย 2 ส่วน
2.1. Head Node มี 3 ส่วน มีพอยเตอร์ 2 ตัว และ จำนวนสมาชิก
2.2. Data Node จะมีข้อมูล และ พอยเตอร์ชี้ตัวถัดไป

การดำเนินการเกี่ยวกับคิว

1.Create Queue คือการสร้างคิวขึ้นมา แล้วจัดสรรหน่วยความจำให้กับ Head Node และพอยเตอร์มีค่าเป็น Null
2.Enqueue คือ การเพิ่มข้อมูลลงไปในคิวโดยการเพิ่มจะเพิ่มจากส่วนท้าย
3.Dequeue คือ การนำข้อมูลในคิวออก จะออกโดยข้อมูลที่เข้าไปตัวแรกจะออกก่อน
4.Queue Front คือ การนำข้อมูลตัวแรกที่เข้าไปในคิวออกมาแสดง
5.Queue Rear คือ การนำข้อมูลตัวสุดท้ายที่เข้ามาในคิวออกมาแสดง
6.Empty Queue คือ เป็นการตรวจสอบว่าคิวนั้นยังคงว่างอยู่หรือไม่
7.Full Queue คือ เป็นการตรวจสอบว่าคิวนั้นเต็มหรือไม่
8.Queue Count คือ เป็นการนับจำนวนข้อมูลที่อยูในคิว ว่ามีจำนวนเท่าไร
9.Destroy Queue คือ การลบข้อมูลที่อยูในคิวทิ้ง

การเพิ่มข้อมูลเข้าไปในคิว

การจะเพิ่มข้อมูลเข้าไปในคิว จะกระทำที่ตำแหน่ง REAR หรือท้ายคิว และก่อนที่จะเพิ่มข้อมูลจะต้องตรวจสอบก่อนว่าคิวเต็มหรือไม่ โดยการเปรียบเทียบค่า REAR ว่า เท่ากับค่า MAX QUEUE หรือไม่ หากว่าค่า REAR = MAX QUEUE แสดงว่าคิวเต็มไม่สามารถเพิ่มข้อมูลได้ แต่หากไม่เท่า แสดงว่าคิวยังมีที่ว่างสามารถเพิ่มข้อมูลได้ เมื่อเพิ่มข้อมูลเข้าไปแล้ว ค่า REAR ก็จะเป็นค่าตำแหน่งท้ายคิวใหม่

การนำข้อมูลออกจากคิว

การนำข้อมูลออกจากคิวจะกระทำที่ตำแหน่ง FRONT หรือส่วนที่เป็นหัวของคิว โดยก่อนที่จะนำข้อมูลออกจากคิวจะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่ามีข้อมูลอยู่ในคิว หรือไม่ หากไม่มีข้อมูลในคิวหรือว่าคิวว่าง ก็จะไม่สามารถนำข้อมูลออกจากคิวได้

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

DTS06-29/07/2552

การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบอะเรย์
การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบลิงค์ลิสตจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ
1. Head Node จะประกอบไปด้วย 2ส่วนคือ top pointer และจำนวนสมาชิกในสแตก
2. Data Node จะประกอบไปด้วยข้อมูล (Data)และพอยเตอร์ ที่ชี้ไปยังข้อมูล

การดำเนินการเกี่ยวกับสแตกการดำเนินการเกี่ยวกับสแตก ได้แก่
1. Create Stack จัดสรรหน่วยความจำให้แก่ Head Nodeและส่งค่าตำแหน่งที่ชี้ไปยัง Head ของสแตกกลับมา
2.Push Stack การเพิ่มข้อมูลลงไปในสแตก
3.Pop stack การนำข้อมูลบนสุดออกจากสแตก
4. Stack Top เป็นการคัดลอกข้อมูลที่อยู่บนสุดของสแตกโดยไม่มีการลบข้อมูลออกจากสแตก
5.Empty Stack เป็นการตรวจสอบการวางของสแตกเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการนำข้อมูลออกจากสแตกที่เรียกว่า Stack Underflow
6. Full Stack เป็นการตรวจสอบว่าสแตกเต็มหรือไม่เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการนำข้อมูลเข้าสแตกที่เรียกว่า Stack Overflow
7. Stack Count เป็นการนับจำนวนสมาชิกในสแตก8.Destroy Stack เป็นการลบข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ใน สแตก
8.Destroy Stack เป็นการลบข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ใน สแตก

การใช้ สแตค เพื่อแปลรูปนิพจน์ทางคณิตศาสตร์
รูปแบบนิพจน์ทางคณิตศาสตร์
• นิพจน์ Infix คือ นิพจน์ที่เครื่องหมายดำเนินการ (Operator) อยู่ระหว่างตัวดำเนินการ (Operands) เช่น A+B-C
• นิพจน์ Prefix คือ นิพจน์ที่เครื่องหมายดำเนินการ (Operator) อยู่หน้าตัวดำเนินการ (Operands) เช่น +-AB
• นิพจน์ Postfix คือ นิพจน์ที่เครื่องหมายดำเนินการ (Operator) อยู่หลังตัวดำเนินการ (Operands) เช่น AC*+

ลำดับการทำงานของตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ (Operator Priority)
มีการลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการจากลำดับสำคัญมากสุดไปน้อยสุด คือ ลำดับที่มีความสำคัญมากที่ต้องทำก่อน ไปจนถึงลำดับที่มีความสำคัญน้อยสุดที่ไว้ทำทีหลัง ดังนี้


เครื่องหมายบวก ( + ) , ลบ ( - )
เครื่องหมายคูณ ( * ) , หาร ( / )
เครื่องหมายวงเล็บเปิด (
เครื่องหมายวงเล็บปิด )

ขั้นตอนการแปลงจากนิพจน์ Infix เป็นนิพจน์ Postfix

1. อ่านอักขระในนิพจน์ Infix เข้ามาทีละตัว
2. ถ้าเป็นตัวถูกดำเนินการจะถูกย้ายไปเป็นตัวอักษรในนิพจน์ Postfix
3. ถ้าเป็นตัวดำเนินการ จะนำค่าลำดับความสำคัญของตัว ดำเนินการที่อ่านเข้ามาเทียบกับค่าลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการที่อยู่บนสุดของสแตก
- ถ้ามีความสำคัญมากกว่า จะถูก push ลงในสแตก
- ถ้ามีความสำคัญน้อยกว่าหรือเท่ากัน จะต้อง pop ตัวดำเนินการที่อยู่ในสแตกขณะนั้นไปเรียงต่อกับตัวอักษรในนิพจน์ Postfix
4. ตัวดำเนินการที่เป็นวงเล็บปิด “)” จะไม่ push ลงในสแตกแต่มีผลให้ตัวดำเนินการอื่น ๆ ถูก pop ออกจากสแตกนำไป เรียงต่อกันในนิพจน์ Postfix จนกว่าจะเจอ “(” จะ popวงเล็บเปิดออกจากสแตกแต่ไม่นำไปเรียงต่อ
5. เมื่อทำการอ่านตัวอักษรในนิพจน์ Infix หมดแล้ว ให้ทำการ Pop ตัวดำเนินการทุกตัวในสแตกนำมาเรียงต่อในนิพจน์Postfix


เช่น
*** เครื่องหมายดำเนินการ (operand) ได้แก่เครื่องหมาย + - * ^ ตัวถูกดำเนินการ ได้แก่ สัญลักษณ์แทนค่าตัวเลข เช่น A B C Dหรือตัวแปรอื่น
สำหรับการดำเนินการด้านการคำนวณนั้น ในระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถที่จะจัดลำดับของการคำนวณในรูปแบบของ infix ได้ แต่จะแปลงเป็นนิพจน์ของ infix หรือ prefix เสียก่อน โดยลักษณะของการแปลงนิพจน์จะใช้การเปรียบเทียบความสำคัญของตัวดำเนินการ
ลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการ
+ -
* /
(
)

ขั้นตอนการแปลง infix เป็น postfix
1.อ่านอักขระใน infix
2.ถ้าเป็น operand ย้ายไปใส่ใน postfix
3.ถ้าเป็น operator จะต้องดูลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการด้วยแล้วใส่ลงในสแตกที่เก็บตัวดำเนินการ ถ้ามีค่ามากกว่าให้ push ถ้ามีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากันให้ pop ออกแล้วไปเรียงต่อตัวอักษรใน postfix
4.ตัวดำเนินการที่เป็น ) จะไม่ถูก push แต่จะทำให้ตัวดำเนินการตัวอื่นถูก pop ออกมาแล้วไปเรียงต่อใน postfix
5.เมื่ออ่านอักขระใน infix หมด ให้ pop ตัวดำเนินการทุกตัวมาเรียงต่อใน postfix
*** ถ้าเจอเครื่องหมาย + - หลังเครื่องหมาย * / ให้ pop เครื่องหมายในสแตกออก
ถ้าเจอเครื่องหมาย * / หลังเครื่องหมาย + - ให้ push ลงในสแตก
การคำนวณค่า postfix
1.อ่านตัวอักษรจาก postfix ที่ละตัว
2.ถ้าเป็น operand ให้ push ไปเรื่อยๆ
3.ถ้าเป็น operator ให้ pop ตัวอักษรออก 2 ตัว แล้วทำการคำนวณตัวที่ถูก pop ที่หลังจะเป็นตัวตั้งแล้วนำ push ผลลัพธ์ลงไป